Feeds:
Posts
Comments

จบไปแล้วกับค่ายสุนทรียศิลป์ที่โรงเรียน สาวๆจำได้รึเปล่านะว่าขอร้องอ้อนวอนแด้ดดี้อยู่นานแค่ไหนกว่าจะได้เรียน

30 เมษายน 2009 วันสุดท้ายของแคมป์ โรงเรียนก็จัดนิทรรศการผลงานของเด็กๆให้ผู้ปกครองเ้ข้าชมเหมือนทุกๆครั้งนั่นแหละ ถึงแม้จะใช้เวลาเรียนทั้งหมดประมาณสองสัปดาห์แต่สาวๆก็มีผลงานให้มัมมี้ได้ดูเพียบเลยนะ ไม่นับรวมถึงขนมอร่อยๆจากการทำ cooking ในชั้นเรียนของณิฌ่า (ขอบอกว่าอร่อยจริงๆ แด้ดดี้ชอบแพนเค้กผลไม้มากเป็นพิเศษ อิอิ ส่วนมัมมี้กับสาวๆแย่งข้าวเหนียวมะม่วงกันไง)

เริ่มแรก มัมมี้เดินดูผลงานของณิฌ่าก่อนเพราะจัดแสดงอยู่ด้านล่าง เห็นแ้ล้วก็แบบอึ้งๆ ทึ่งๆ ณิฌ่าวาดเองระบายสีเองจริงรึเปล่าเนี่ย คิคิ ยอดเยี่ยมมากๆเลย ต่างกับช่วงที่เรียนอนุบาล 1 เยอะนะ ผลงานก็มีหลากหลาย ณิฌ่าชอบกระถางต้นไม้มากๆ กระปุกออมสินก็มีด้วย

ดูของณิฌ่าเสร็จ พี่โซอี้ก็มาลากมัมมี้ไปดูงานของตัวเองบ้าน ครูอ๊อบนำเสนอผลงานชิ้นนึงของโซอี้ใหญ่เลยล่ะ ก็เล่นออกมานอกกรอบซะขนาดนั้น คนเดียวด้วยนะ ของเพื่อนๆจะอยู่ในกรอบภาพเป๊ะๆ ผลงานของโซอี้หลายๆชิ้นก็ดูจี๊ดจ๊าดมีสีสันมากเหมือนที่มัมมี้ฝันว่าอยากเห็น พอได้เห็นแล้วก็ปลื้มน่ะสิ ปกติจะเห็นแต่สีอ่อนๆ เส้นจางๆ แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่อย่างนั้นแล้วเนอะ

มัมมี้ลืมบอกว่า สาวๆโชคดีจังนะที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปินที่สละเวลามาร่วมสอนในแคมป์นี้ทั้งครูเป้ สีน้ำ ครูเอกชัยที่ไม่มีมือมีแขนแต่สามารถสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะได้ ขอให้สาวๆนำแรงบันดาลใจดีๆเหล่านี้ไปใช้บ้างนะลูก

พอมาถึงช่วงการแสดงของแต่ละระดับชั้น มัมมี้ก็สนุกมากๆ แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนะ มัมมี้ถ่ายเป็นวิดีโอคลิปมาฝากแด้ดดี้แทนไง จะได้เหมือนว่าแด้ดดี้ก็ไปดูพวกหนูๆที่โรงเรียนด้วยกัน

เปิดเทอมหน้า (เร็วๆนี้แหละ) พี่โซอี้ก็จะขึ้น ป 1 ณิฌ่าขึ้นอนุบาล 2 ส่วนนู๋เมซี่ไปเข้าเตรียมอนุบาลแล้วนะคะ

บล้อกนี้ก็จบแค่นี้แหละจ้ะ มัมมี้มาเร็วไปเร็ว แว่บๆเป็นนินจา

ไปแล้วนะ อิอิ

– This & That –

มัมมี้ไม่ค่อยได้บันทึกเรื่องราวของสาวๆอีกแล้ว มัวแต่เห่อเขียนบล้อกของตัวเอง อิอิ
คราวนี้ มีเรื่องมาเล่ามากมาย และด้วยความที่รูปเยอะมาก มัมมี้ก็ขอนำมารวมกันเป็นภาพใหญ่ๆแทนนะ

บล้อกก่อนหน้านี้ มัมมี้เกริ่นไว้ว่าพี่โซอี้เรียนจบชั้นอนุบาลแล้ว เปิดเทอมหน้าก็เป็นพี่ประถมแล้วสินะ ตื่นเต้นรึเปล่าเนี่ย? วันรับประกาศณียบัตร ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน โซอี้บอกมัมมี้ว่า “วันนี้โซอี้ต้องร้องไห้แน่ๆเลย” ก็ใช่น่ะสิ ก็จะไม่ได้เจอครูจูนอีกแล้ว แล้วก็เพื่อนๆยกห้อง (ยกเว้นแสงจ้า ที่เราเพิ่งมารู้ทีหลัง) ความผูกพันที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันมาตลอดสองปี อืม ก็คือมัมมี้เข้าใจนั่นแหละ ร้องไห้ได้แต่ห้ามร้องนานนะ

ช่วงแรก เป็นการให้นักเรียนมอบพวงมาลัยเพื่อขอบคุณครูทั้งหลายที่ได้สอนมาตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล แต่โซอี้ไปเข้าเรียนตอนอนุบาลสอง เพราะฉะนั้นครูที่สอนโซอี้จริงๆก็มีเพียงครูจูนคนเดียวนั่นแหละ ครูผู้ช่วยก็ไม่มี การมอบพวงมาลัยมาจบที่เด็กๆรับประกาศณียบัตรจากครูอ๊อบ หลังจากนั้น เด็กๆก็กลับมานั่งกับผู้ปกครองแล้วดู Presentation ของเด็กๆด้วยกัน ตั้งแต่อายุประมาณ 2 ขวบที่เริ่มไปโรงเรียน น่ารักดี พอรูปใครอยู่ที่จอ เด็กๆก็จะเรียกชื่อเพื่อนกันเสียงดังลั่นห้องประชุม

หลังจากที่จบจากพิธีการแล้ว เด็กๆก็ลงมาปาร์ตี้กับเืพื่อนๆ ณิฌ่าก็มีปาร์ตี้เล็กๆที่ห้องด้วยนะ ฉลองจบอนุบาล 1 อิอิ มัมมี้ไม่ได้อยู่ปาร์ตี้ด้วยเพราะเมซี่ง้องแง้ง สงสัยจะง่วงนอนเลยพาไปนั่งรถเล่นแล้วก็หลับไปจริงๆซะ้ด้วย ไปรับเด็กๆอีกทีก่อนเที่ยง โซอี้ร้องไห้กอดครูจูนอยู่นานมากเลย ครูจูนเองก็ห้ามใจไม่ไหว พาลร้องไห้ไปกับลูกศิษย์ซะงั้น มัมมี้ไม่อยากเร่งให้กลับ เพราะอยากให้โซอี้มีช่วงเวลากันและกันกับครูจูนให้นานที่สุดจนพร้อมที่จะเดินต่อไปได้เอง และแล้ว..เวลานั้นก็มาถึง

ช่วงปิดเทอม เด็กๆก็ไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่ มัวแต่ไปป่วนที่อินลิงกัว  มัมมี้ก็เกรงใจพี่ๆที่ออฟฟิศเหมือนกันนะแต่คือถ้าอยู่บ้านด้วยกันก็จะทะเลาะกันมากมายนับครั้งไม่ถ้วนเข้าไปอีก อีกหน่อยพอเมซี่ไปโรงเรียนแล้วก็คงไม่พ้นอยากจะไปร่วมแก๊งป่วนกับพี่ๆแน่เลย

แด้ดดี้เตรียมโปรเจคท์สำหรับเด็กๆช่วงปิดเทอมคือการรวบรวมกล่องต่างๆ ลังต่างๆมาติดกระดาษสีแล้วต่อให้เป็น castle สงสัยว่ากล่องและลังต่างๆจะมีจำนวนมากเกินไป ทำให้เป็นอุปสรรคในการออกแบบ ทำรอบแล้วรอบเล่าก็ไม่ถูกใจใครเลย จนในทีุ่สุดแด้ดดี้เลยจัดการเองทั้งหมด แล้วเด็กๆก็ดูเหมือนจะชอบนะ พออารมณ์ดีก็จะพากันอุ้มบาร์บี้มาเล่นเป็นเจ้าหญิงกันที่ปราสาทแห่งนี้แหละ

แล้วอยู่ๆ เมซี่ จอมซ่าของมัมมี้กลายเป็น artist ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ วันๆเธอจะยุ่งอยู่กับกระดาษและปากกา ดินสอ สีเทียน ขีดๆเขียนๆไปเรื่อย บางทีก็มาับังคับให้มัมมี้วาดรูปอีกซะด้วยนะ จนกระทั่งแด้ดดี้ไปเล่าให้แกรนด์มาฟัง แกรนด์มาเลยอยากเห็นรูปที่เมซี่วาด มัมมี้ก็เลยได้อานิสงส์นำมาโชว์ ณ บล้อกของสามสาวด้วยล่ะ

ดูลีลาซะก่อน อุปกรณ์พร้อมสุดๆ อิอิ

ภาพวาดหน้าคน by Maisie

รูปที่เมซี่วาดข้างบนนี้ถือว่าเห็นชัดเจนมากๆ พอๆกับรูปที่วาดด้วย marker บนไวท์บอร์ด ปกติเมซี่จะใช้กระดาษ A4 เป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน แล้วถ้ามัมมี้ไม่เรียกหรือไม่ไปดูว่าเมซี่กำลังทำอะไรอยู่ กระดาษ A4 ทั้งแผ่นก็จะเต็มไปด้วยหน้าคนแบบนี้ ขนาดเล็กใหญ่คละกัน

เรื่องอัพเดทสุดๆคือปลายสัปดาห์ช่วงสงกรานต์ เรามีเซอร์ไพรส์สำหรับเด็กๆด้วย
ก่อนวันเกิดมัมมี้ ป้าตาล (แม่ของต้ากับตุ้ย) กับ ป้านาดา (แม่ของทิม) นัดจะไปทะเลกันและชวนครอบครัวเราไปด้วย มัมมี้ค่อนข้างมั่นใจในตอนนั้นว่าแด้ดดี้คงไม่ไปแน่ๆ เพราะต้องทำงาน(ก็นานๆจะได้มีวันหยุดเหมือนชาวบ้าน) มัมมี้ก็เลยบอกป้าๆไปว่าจองห้องไปก่อนแล้วกัน ไม่ต้องรอ แล้วมัมมี้ก็บอกแด้ดดี้ แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่าแด้ดดี้เห็นดีเห็นงามด้วย มัมมี้ก็เลยรีบโทรไปจองห้องพักเรียบร้อย

พอใกล้ๆจะถึงวันนั้น แด้ดดี้ก็ชอบบอกเด็กๆว่าถ้าเป็นเด็กดีจะมีเซอร์ไพรส์ จนวันที่จะไปทะเลเด็กๆก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร โซอี้ก็เดาไปเรื่อยนั่นแหละ เดาถูกนะ แต่เราก็บอกว่าไม่บอกต้องรอดู พอใกล้ๆจะถึงที่พัก ก็ใบ้จนโซอี้ตอบถูกจากการอ่านป้ายบอกทาง ณิฌ่าก็ตื่นเต้นไม่น้อย บอกให้เฮมิชเผยความลับที่มีอยู่ทั้งหมด อิอิ

ภาพต่อไปนี้เป็นภาพความประทับใจจากทริปสั้นๆของเรา
อยากให้มีอีกเร็วๆจังเลย Save hard นะจ๊ะ

ที่นี่เหมาะสำหรับครอบครัวมากๆ คือเท่าที่เห็นเนี่ย ทุกห้องที่พักจะมีเด็กมาด้วยอย่างน้อย 1 คน
ให้ตายสิ! เห็นเด็กเยอะๆแล้วมัมมี้ปวดหัวที่สุด
ห้องที่เราพักก็โอเคนะ แต่คือเป็นเตียงใหญ่สองเตียง ทำให้ห้องแคบไปหน่อย
แต่ก็คือดีมากที่มีสถานที่ให้เด็กๆเข้าไปซนกันได้เต็มที่ ไปอีกๆๆ

ทริปนี้สาวๆสนุกกันมาก เพราะได้เล่นที่ทะเล สระว่ายน้ำ และ Kid’s World
แค่คืนเดียวมันสั้นไปจริงๆด้วยเนอะ ต้องซักสองคืน กำลังดี อิอิ

บล้อกนี้คงมีแค่นี้แหละ แค่นี้มัมมี้ก็เหนื่อยแล้ว (เก็บแรงไปเขียนบล้อกของตัวเอง อิอิ)
บล้อกหน้าสงสัยจะเป็นเรื่องเมซี่เข้าโรงเรียนและผลงานของสองสาวกับ summer camp

นานเป็นเดือนเลยนะเนี่ยที่มัมมี้ไม่ได้เข้ามาอัพบล้อกให้สาวๆ แต่ก็นะ..ช่วงที่ผ่านมา เราต่างก็มีเรื่องยุ่งวุ่นวายที่ต้องจัดการสะสางให้เสร็จ ถึงกระนั้นก็เถอะ มัมมี้เสียใจจังที่ไม่ได้ถ่ายรูปเด็กๆเก็บไว้ นับวันลูกก็ยิ่งโตแต่มัมมี้กลับไม่ได้เก็บภาพแต่ละช่วงเวลาของลูกเอาไว้

มัมมี้จะพยายามให้มากกว่านะจ๊ะ

เอาเป็นว่าขอพูดถึงเรื่องที่โรงเรียนก่อนแล้วกันนะ ช่วงสองสัปดาห์ก่อน เด็กๆมีงานนิทรรศการผลงานนักเรียนเหมือนในทุกๆองค์ องค์นี้ยุ่งพอสมควรเพราะมัมมี้ไม่ค่อยว่างและต้องไปโรงเรียนเกือบทุกวันเลย แต่ได้เห็นผลงานของสาวๆแล้วก็ชื่นใจ

เริ่มจากของณิฌ่าก่อนแล้วกันเนอะ

ของณิฌ่าก็ไม่มีอะไรมาก แต่เท่าที่เห็นคือณิฌ่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นโดยเฉพาะการขีดเขียน ตอนนี้ณิฌ่าวาดรูปได้หลากหลายขึ้น เขียนชื่อตัวเองได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ งานศิลปะของณิฌ่าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เส้นคมชัด สีสันสดใส ผิดกับตอนเริ่มไปโรงเรียนใหม่ๆ นอกจากนี้แล้ว ณิฌ่า คนเล่นตัวของมัมมี้ ตอนนี้มีเพื่อนสาวยกแก๊งแล้วนะจ๊ะ ไม่น่าเชื่อเลยเนี่ย

มัมมี้ไม่รู้จะบอกอะไรณิฌ่า นอกจากคำว่า “I’m so proud of you.”

ส่วนพี่โซอี้ ความสามารถของลูกมากมายเหลือเกิน มัมมี้ปลื้มมากๆตอนที่เห็นโซอี้รำ ลูกของมัมมี้รำสวยที่สุดเลย ใครจะว่ามัมมี้ชมลูกตัวเองก็เถอะ ก็โซอี้รำได้สวยงามอ่อนช้อยจริงๆนี่นา ครูเปิ้ลเธอว่ายังไงบ้างนะ แต่แด๊ดดี้พูดได้คำเดียวว่า “Jesus Christ!” อิอิ

อ้อ! ที่มัมมี้ไม่เชื่อสายตาัตัวเองก็คือ ภาพวาดของโซอี้ได้โชว์ที่บอร์ดทัศนศึกษาด้วยนะ ตอนที่ลูกไป Royal Barge Museum (มัมมี้จำชื่อภาษาไทยไม่ได้ แหะๆ) และในจุลสารประจำองค์ของโรงเรียน ก็มีภาพวาดหอยงวงช้างของโซอี้อยู่ด้วย ช็อคมากค่ะ! ปกติแล้ว จะเป็นภาพลายเส้นของเพื่อนๆมากกว่า แหม..ก็นะ เมื่อตอนเข้าเรียนอนุบาล 2 ใหม่ๆ ครููจูนยังตกใจลายเส้นของโซอี้ที่เหมือนเด็กสองขวบอยู่เลย มาวันนี้เทียบเท่าเพื่อนๆได้แล้วนะลูก ภูมิใจจังเลยแฮะ วิชาโยคะ โซอี้ก็ไม่เป็นรองใคร จะแย่ก็ตรงรับ-ส่งบอลนี่แหละลูกเอ๊ย คิคิ

ตอนนี้ สาวๆปิดเทอมมาได้สัปดาห์นิดๆแล้วเนอะ เบื่อใช่มั้ยลูก บ่นอยากไปโรงเรียนกันทุกวันเลย

มัมมี้ลืมบอกว่า พี่โซอี้ของเราเรียนจบในระดับชั้นอนุบาลแล้วนะ ต่อไปก็เป็นก้าวแรกของการเป็นนักเรียนประถม สู้ๆนะลูก เต็มที่กับทุกอย่าง มัมมี้เชื่อว่านั่นเป็นสิ่งที่พี่โซอี้จะทำอย่างแน่นอน อย่า้ท้อแท้นะ เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องรีบเลย เอาตามสเต็ปที่ลูกทำได้ แค่นั้นแม่ก็ดีใจแล้ว

บล้อกนี้ เอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน
บล้อกหน้า คาดว่าจะมีหลายเรื่องกว่านี้..เนอะ!

ก่อนจากปี 2008 โซอี้ก็ได้รับของขวัญสีแดงจนได้สิน่า!

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียน ไม่มีผู้รู้เห็นเหตุการณ์ ปิดคดีด้วยคำว่า “อุบัติเหตุ” ของขวัญชิ้นนี้เป็นแผลถลอกยาวครึ่งแขนผู้ใหญ่ ครูที่โรงเรียนจัดการนำยาเหลืองมาทาบริเวณแผลให้เรียบร้อย และไม่ได้โทรบอกมัมมี้เพราะเหตุการณ์เกิดหลังเลิกเรียนแล้ว มัมมี้เห็นแขนลูกแล้วใจจะขาด เพราะเป็นสีแดงจากเลือดทั้งแถบที่ถลอก

ตั้งแต่โซอี้เกิดมา มัมมี้ก็ไม่ได้เลี้ยงดูดีอะไรมากมายหรอก เพราะอยากให้โซอี้เล่นสนุกให้เต็มที่ จะมีที่ระวังมากก็พวกของแหลมคม พอเริ่มมาโรงเรียน ขาของโซอี้ก็ลายเพราะแพ้ยุงรึเปล่า คงต้องไปคุยกับหมอผิวหนังอีกที มัมมี้เสียใจนะแต่ก็รับได้เพราะตัดสินใจให้ลูกเรียนที่นี่ ได้อยู่กับธรรมชาติ แต่แผลถลอกยาวตลอดแขนขนาดนี้ จะให้มัมมี้ชิลๆเหมือนเดิมคงเป็นไปไม่ได้ ทำไมไม่เกิดกับมัมมี้เองนะ ตรงไหนในร่างกายก็ได้ แล้วแผลถลอกแบบนี้ต้องจัดการอย่างไรมัมมี้ก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ณ ตอนนั้น มัมมี้รู้แค่ว่าเรายังกลับบ้านไม่ได้ เราต้องไปโรงพยาบาล

มัมมี้รีบโทรศัพท์หาแด้ดดี้เพื่อให้ช่วยตัดสินใจว่าจะไปโรงพยาบาลเดิมที่ค่อนข้างไกลหรือจะไปโรงพยาบาลใกล้โรงเรียน สุดท้ายก็เลือกอันหลังเพราะคงไม่มีอะไีรมาก อย่างมากก็ทำแผล ที่ไหนก็คงเหมือนๆกัน

เราต้องไปทำแผลแบบนี้ทุกวัน 5 วัน บางวันมัมมี้ก็ต้องพาสาวๆทุกคนไปด้วย บางทีโชคดีแด้ดดี้ก็ได้มาด้วย มัมมี้เลยคลายความเซ็งได้เล็กน้อย ในภาพข้างบน ไม่ใช่แผลวันแรกนะ เข้าใจว่าเป็นวันที่สามแล้ว ซึั้่งดูดีกว่าแผลที่มัมมี้เห็นเมื่อวันแรกมาก ณิฌ่าเห็นพี่โซอี้มีผ้าพันแผลก็ขอพี่พยาบาลคนสวยช่วยทำให้เหมือนกันโซอี้ด้วย อิอิ ส่วนเมซี่ก็ป่วนได้อีก เฮ้อ..

หลังจากหมดคอร์สทำแผล ก็มีโอกาสได้พบป้าหมอที่โรงพยาบาลเดิมซึ่งเช็คแผลให้โซอี้รอบสุดท้ายด้วย ป้าหมอบอกว่าจะไม่เป็นแผลเป็นแน่นอน สีผิวอาจจะไม่เท่ากันแต่พอโตขึ้นก็จะเป็นปกติ สวยเนียนเหมือนเดิม ได้ฟังแล้วก็โล่งใจ ฟาดเคราะห์ไปนะลูก

สัปดาห์สุดท้ายของปี ที่โรงเรียนจัดให้มีนิทรรศการผลงานนักเรียน องค์ 3 “ธรรมชาติ” ของณิฌ่าตรงกับวันพุธ Christmas Eve พอดีเลย

ผลงานที่ครูนำมาจัดแสดงถือว่าน้อยจนน่าตกใจจริงๆ ตอนแรกมัมมี้ก็คิดว่าพื้นที่คงมีไม่พอมั้ง แต่พอไปดูผลงานของเพื่อนๆชั้นอนุบาลหนึ่งห้องอื่นๆ หูย..ผลงานเพียบ แด้ดดี้รู้สึกเซ็งไปเลย มาแล้วแทบไม่ได้เห็นอะไร คงต้องรอตอนได้แฟ้มผลงานอีกทีนั่นแหละ อ้อ..ลืมเล่าให้ฟังว่าองค์นี้เด็กๆอนุบาล 1 เรียนเรื่องแมลง ผลงานส่วนใหญ่เลยมีแต่เรื่องแมลง (ผีเสื้อ มด แมลงหวี่)

ของโซอี้ มีนิทรรศการวันศุกร์ Boxing Day แถมเป็นวันสุดท้ายของปีที่เด็กๆไปโรงเรียน เลยมีปาร์ตี้เล็กๆในแต่ละห้องเรียนด้วยนะ

องค์นี้ เด็กอนุบาล 3 เรียนเรื่องนก ผลงานส่วนมากก็ไม่พ้นบรรดานกทั้งหลายแหล่ มัมมี้ชอบนะ มัมมี้ว่ามันเยี่ยมมากเลยที่เด็กๆสามารถดูนกแล้วบอกได้ว่าเป็นนกชนิดไหนจากการสังเกตลักษณะต่างๆของนก อ้อ..เมื่อตอนวันพ่อ สาวๆห้องโซอี้ได้รับถวายพระพรด้วย ก็เลยมีรูปรำติดมา 1 แชะ (ใครแชะก็ไม่รู้ 5555) 

ส่วนการแสดงของเด็กๆเริ่มต้นด้วยการเล่นอังกะลุง 5 เพลง จากนั้นก็เป็นเกมนำปัญญาจากที่เด็กๆเรียนในชั้นเรียน โดยเฉพาะเรื่องนกที่มีให้เด็กๆเลือกภาพสำหรับตอบคำถามครูด้วย

หลังจากนั้นก็เป็นเทศกาลวันหยุดยาวที่เราไม่ได้ไปเที่ยวไหนไกลๆอีกปี ก็คงต้องขับรถวนเวียนอยู่ใกล้ๆกรุงเทพฯนี่แหละ ก่อนหน้านี้เราไปสวนรถไฟกันด้วย เป็นครั้งแรกที่ได้ไป เอ๋อเล็กน้อย ไม่ได้ขับรถไปด้วย ใช้บริการพี่แท๊กซี่ เดินเที่ยวผิดสวนพักใหญ่ถึงได้รู้ เป้าหมายหลักคือการไปดูผีเสื้อสวยๆที่สวนผีเสื้อ สาวๆก็ได้ดูสมใจ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เหนื่อยๆๆ มัมมี้เจ็บเท้าด้วยล่ะ เลยบ่นซะ..

พอถึงคราวเทศกาลวันหยุดจริงๆ เราก็ออกจากบ้านกันเกือบทุกวัน แต่ไม่ค่อยมีรูปเลย ตากล้องมีกิจกรรมทำมือมากมาย อิอิ

วันแรก ที่ พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น อยุธยา โดย รศ.เกริก ยุ้นพันธ์ (เขียนนามสกุลผิดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ) ซึ่งเป็นทริปที่พ่อ แม่ ลูก มอร์ริสัน ชื่นชอบกันมากที่สุด และหวังว่าจะได้กลับไปเที่ยวชมอีก

วันต่อมาไปหม่ำอาหารทะเลกันที่ดอนหอยหลอด คนเยอะจริงๆ ขนาดว่าเราไปถึงก่อนเวลามื้อเที่ยงแล้ว รถก็ยังเยอะ ดีว่ามีโต๊ะนั่งเหลืออยู่อีกเล็กน้อย มัมมี้แฮ้ปปี้มาก นั่งแกะๆ จิ้มๆจุ่มๆ แล้วก็หม่ำๆๆๆๆๆ เด็กๆเบื่อเลยรีบหนีไปขึ้นรถนั่งรอมัมมี้ แหะๆ ได้ขนมถ้วยตะไลมาหม่ำด้วยล่ะ อิอิ

วันต่อมา ไปเยือนชะอำ ด้วยแด้ดดี้คาดว่าหาดจะว่างมากมาย เพราะคนจะไปที่หัวหินกันมากกว่า แล้วเป็นไงล่ะคะ มัมมี้ขับรถไปตั้งไกล เด็กๆเล่นทรายได้ไม่ถึงสิบนาทีก็มีอันต้องถอยทัำพแล้ว เพราะคนเยอะมาก รถเยอะมาก กว่าจะออกจากหาดได้ เล่นเอาแทบแย่ ดีนะว่ามีเสบียงตุนไว้ในรถเล็กน้อย เด็กๆเล่นเคี้ยวตุ้ยๆๆ ไม่บ่นหรือส่งเสียงให้แด้ดดี้มัมมี้รำคาญใจ อิอิ

 

วันต่อมา ตอนแรกจะไปสวนนกชัยนาท แต่ปรากฏว่าเฮมิชข้อมือเจ็บ ถ้าไปไกลขนาดนั้นก็ต้องอุ้มเมซี่นานๆ ขอยกเลิกทริปไปก่อน แต่ก็ยังได้ออกนอกบ้าน เพราะเขาดินมีเกาะนกอยู่พอดี เราไปดูนกกันที่นั่นแทนก็ได้ สรุปก็ไม่ได้ไปดูแค่นกหรอก หึหึ

คือตอนแรกก็มีแต่นกหรอก ตอนจะออกจากเกาะนกน่ะสิ ฮือ.. เรากำลังเดินหาทางออกกันอยู่ แล้วก็เดินวนไปวนมาไปออกที่ทางเข้า ระหว่างทาง มัมมี้ถ่ายรูปเล่นอยู่ สาวๆ เดินอยู่ข้างหน้า ส่วนแด้ดดี้นำโด่งไปแล้ว ทันใดนั่นเอง มัมมี้เหลือบไปมองเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ที่ต้นไม้ในกระถาง แล้วก็ตะโกนบอกแด้ดดี้ว่า “A snake, isn’t it?” แด้ดดี้ก็ถามกลับซะงั้น “Is it?” ตอนนั้นเราห้าคนหยุดกันไปแล้ว แล้วแด้ดดี้ก็พูดขึ้นมากะทันหันว่า “ํำYes. A snake!” แล้วมัมมี้ก็ยืนขาตายประมาณ 3 วินาที มองดูงูมันเลื้อยไปทางอื่น เท่านั้นแหละค่ะ ลมกรดไหนๆก็สู้มัมมี้ไม่ได้แน่นอน วิ่งไปยังทางออกภายในเวลา 5 วินาที เหนื่อยโคตรๆ คงไม่ไปที่นี่อีกนานเลย ฮือ..

วันสุดท้ายไปตลาดดอนหวาย ช้ิอปปิ้งสนุกมากๆ ไว้เด็กๆไป รร กันครบ มัมมี้กับแ้ด้ดดี้จะแอบไปช้อปปิ้งกันสองคน คิคิ

โรงเรียนต้อนรับสัปดาห์แรกของการเปิดเทอมด้วยงานกีฬาสีสัมพันธ์ ปีนี้น้องเล็กและพี่โตแยกกันคนละวัน มัมมี้ก็เลยมีอันต้องไปสองวัน วันแรกอยู่สีฟ้ากับณิฌ่า แต่มีเมซี่ไปด้วยน่ะสิ มัมมี้เลยได้ไปร่วมแจมเก้าอี้ดนตรีเท่านั้น อยู่ถึงรอบสุดท้าย ฮี่ๆๆ ส่วนอีกวันอยู่สีเหลือง วันนี้เมซี่อยู่บ้าน มัมมี้เล่นเกือบทุกเกมฮ่า (ปิดตาหาลูก..หาไม่เจอ, ชักเย่อ 2 รอบ..ชนะขาด, เรือบก..เล่นไม่เป็นค่ะ, เก้าอี้ดนตรี..ตกรอบแรกด้วยการโดนบั๊มพ์กำลังสอง หุหุ) ก็สนุกดี แต่เหนื่อยจังและต้องรีบกลับบ้านด้วย ถ้าไม่รีบร้อนและถ้ามีแด้ดดี้ไปด้วยคงสนุกกว่านี้

ขอจบบล้อกนี้ลงตรงนี้แหละ ยาวมากๆเลย มัมมี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนเพราะมีอะไรต้องทำมากมาย แต่จะพยายามมาเขียนเรื่อยๆแล้วกัน

– Our Christmas –

บล้อกก่อนโน้น เข้าใจว่าลืมเขียนเรื่องงานศิลปะของเด็กๆ พอดีเพื่อนที่คณะติดต่อมาให้ส่งรูปครอบครัวและข้อความสั้นๆเพื่อลงในนิตยสารรักลูก ฉบับเดือนธันวาคม 2551 ตอนแรกส่งรูปหน้าตรงไปให้ คิคิ แต่เพื่อนบอกว่าอยากได้ที่เป็นธรรมชาติ ก็พยายามจัดให้พ่อลูกมีกิจกรรมร่วมกัน คือ ทำงานศิลปะนั่นเอง เพราะง่ายที่สุดแล้ว

แต่เนื่องจากว่าส่งภาพไปให้หลายๆโอกาส ทั้งงานศิลปะ ทั้งที่ไปเที่ยวทะเลกันมา ปรากฏว่าฝ่ายศิลป์ชอบภาำพทะเล เนื่องจากว่าไม่ต้องเห็นหน้าพ่อลูกบ้านนี้ คิคิ ไม่ใช่ๆๆ ที่เลือกรูํปทะเลเพราะว่าบรรยากาศดูอบอุ่นเหมาะกับเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวต่างหาก

สามสาวก็ยังคงไปซนและวุ่นวายที่อินลิงกัวเหมือนเคย ช่วงนี้เฮมิชไม่มีสอนเท่าไหร่เลยได้ลดจำนวนวันไปป่วนบ้าง แต่สถานการณ์ยิ่งแย่ลงน่ะสิ ไม่ได้ไปหลายวัน พอจะได้ไปแล้วเกิดอาการ OX (Over-Excited) ก็พอดีเก็บภาพความซนของสามคนไว้ได้

แล้วดูสถานที่จริงสิ เวลาเล่าให้ใครฟังก็พยายามเข้าใจว่าไม่มีใครรู้หรอกว่าสถานที่มันสวยงาม เหมาะกับความสงบแค่ไหน มียัยสามป่วนไปกวนถึงที่ขนาดนี้ บางทีก็ได้รับ Hushhhhh! เหมือนกัน 5555

หลายครั้งก็เลยไม่ค่อยอยากพาเด็กๆไปเสียงดังใส่ห้องเรียนสักเท่าไหร่ เกรงใจทั้งผู้เรียน ผู้สอน แถมผู้ทำงานและผู้จัดการอีกด้วยนะเออ

มาถึงเรื่องตาม Topic ซะทีนะ คริสต์มาสของเรา ปีนี้สองสาวหยุดเรียนกันด้วย ก่อนจะถึงวันสำคัญ เราก็ตระเวนไปโน่นมานี่ เพื่อหา tree top decorations โชคดีที่หาเจอ แปลกและเก๋มากๆ แล้วก็ซื้อของแต่งต้นคริสต์มาสมาิเพิ่มเิติมอีกเล็กน้อยสำหรับด้านล่างที่ยังว่างอยู่ กลางคืนวันคริสต์มาสอีฟ หลังเด็กๆเข้านอน เราได้ช่วยกันจัดวางของขวัญทุกชิ้นใต้ต้นคริสต์มาส และำนำ stockings ของสาวๆมาห้อยไ้ว้ที่ต้นคริสต์มาสด้วย เวลาซานตาคล้อสมาถึงจะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมา เจอต้นปุ๊บเห็นถุงเท้าปั๊บ อิอิ

นอกจากนี้ก็จัดโต๊ัะอาหาร นำของเล่นปาร์ตี้ต่างๆ รวมทั้ง Christmas Crackers มาวางบนโต๊ะ แล้วก็ไม่ลืมเตรียมจานและแก้วน้ำสำหรับคุ้้กกี้และน้ำผลไม้ให้ซานตาคล้อสด้วยล่ะ

เด็กๆตื่นกันตั้งแต่ก่อนหกโมงเช้า ทำเอาเราพ่อแม่พากันอ่อนใจ สาวก OX จริงๆ พร้อมใจกันตื่นทั้งสามคนเลยนะ แล้วก็รีบวิ่งไปที่ต้นคริสต์มาสแต่ซานตาคล้อสย้ายถุงเท้าที่มีของใส่จนเต็มมาไว้ที่เก้าอี้นั่งแทน เด็กๆหยิบถุงเท้าของตัวเองอย่างรวดเร็วและทำการสำรวจ อิอิ

หลังจากสำรวจของในถุงเท้าเรียบร้อยแล้ว เราก็ขอให้เด็กๆใช้เวลาสนุกๆกับของเหล่านั้นพักใหญ่ เพื่อที่จะได้แอบพักผ่อนอีกเล็กน้อยก่อนมื้อเช้า แต่ไม่สำเร็จหรอก เด็กๆใช้เวลาไม่นานกับของในถุงเท้า เราก็เลยต้องจัดมื้อเช้าอย่างด่วน แล้วก็เป็นไปตามคาด เด็กๆพากันส่งเสียงว่าไม่หิว..อิ่มแล้ว.. เพื่อที่จะได้รีบเปิดห่อของขวัญใต้ต้นคริสต์มาส ทุกคนตื่นเต้นมากๆ ยกเว้นเมซี่ที่ wayyy too excited แถมยังมีอาการ teething จากการที่ฟันกรามซี่ยักษ์กำลังจะขึ้ืนด้วย she เลยวีนซ้าาา… เปิดปากมาแต่ละทีก็เห็นเลือดตามซอกฟันใกล้ๆซี่ที่กำลังจะขึ้น

เมื่อของขวัญถูกเปิดออกจนหมดแล้ว เด็กๆก็ยังสำรวจรายละเอียดของขวัญแต่ละชิ้นกันต่ออีกพักใหญ่ จนใกล้ๆเที่ยง เราก็เตรียมมื้อเที่ยงกัน น่าเสียดายจังเลย ลืมถ่ายรูปชี้สต่างๆไว้ด้วย จะได้ครบองค์ประกอบ แง้ๆ เด็กๆพยายามลองอาหารใหม่ๆ เช่้น ไส้กรอก Mettwurst ซึ่งอร่อยมากๆ Porkleg Chinese Style ก็กรุบกรอบอร่อยจัง Meatloaf Fine ก็หนานุ่ม รวมทั้งชี้สแบบต่างๆก็ได้ลองทาน แต่ก็ไม่ชอบบางอย่าง

พอเด็กๆเริ่มอิ่มแล้วก็ขอร้องให้จัดการกับ Christmas Crackers ทันที สนุกกันมากๆ แล้วก็ปิดท้ายวันด้วยการผ่อนคลายกับการทำงานศิลปะ

เด็กๆมีวันหยุดตั้งแต่ 27 Dec ’08 – 4 Jan ’09 ทำอะไรดีน้าาาา?

– Lots to Tell –

วันนี้เหมือนจะว่าง แต่ก็นั่งทำรูปโน่นนี่ทั้งวัน เลยไม่ได้แวะมาเขียนบล้อก ไม่เป็นไรๆ เริ่มตอนนี้เลยแล้วกัน

ห่างหายมาจากการเขียนบล้อกสาวๆนานมาก จำไม่ได้แล้วว่าต้องเริ่มตรงไหน ยังไง แถมย้ายบ้านใหม่ด้วย เลยเงอะๆงะๆเก้ๆกังๆเข้าไปใหญ่

 

เริ่มตั้งแต่ืเดือนตุลาคมแล้วกันเนอะ

ทั้งเดือนนั้น โซอี้กับณิฌ่ามีเดย์แคมป์ที่โรงเรียน ของณิฌ่าเรียนเกี่ยวกับธรรมชาติ แล้วก็มีการล่อแมลง ส่องแมลงกันด้วย ส่วนของโซอี้เรียนศิลปะ การวาดด้วยสีน้ำ ชาร์โคล การปั้นดิน ดนตรีไทย (อังกะลุงและขิม) และนาฏศิลป์ไทย พอแต่ละคอร์สจบ ก็จะมีนิทรรศการแสดงผลงานของเด็กๆให้พ่อแม่ได้เข้าชมด้วย

ผลงานของณิฌ่า ส่วนมากจะ็เป็นเรื่องธรรมชาติที่เรียน แต่ก็ยังมีศิลปะที่ผูกพันกับธรรมชาติเหมือนกับทุกๆวันที่ไปโรงเรียนนั่นแหละ มัมมี้เดินดูผลงานแล้วก็รอ ร้อ รอ แต่ปรากฏว่าสำหรับเดย์แคมป์ โรงเรียนไม่ได้จัดให้เด็กๆมีการแสดงเหมือนกับช่วงจบแต่ละองค์ แป่ววว..

ส่วนของโซอี้ เริ่มหลังณิฌ่าก็จบหลังณิฌ่า ผลงานมากมายหลากหลายสีสันเต็มโรงเรียนไปหมด มัมมี้จำได้ติดตาเมื่อวันที่ไปชมการแสดง วันนั้นมีทั้งการเล่นขิม การเล่นอังกะลุง แล้วก็รไำทย (ชุดเก็บไข่มดแดง..อะไรสักอย่างนี่ล่ะ) น่ารักดี

ระหว่างเดย์แคมป์ของเด็กๆ มีวันหยุดด้วย รร ก็เลยหยุด เราก็เลยไปเที่ยวเมืองโบราณกันด้วยบัตรฟรี ฮี่ๆ ก็งั้นๆแหละเพราะวันหยุดคนจะเยอะมากเป็นพิเศษ ไปกี่ทีๆก็เป็นวันหยุด เฮ้อ…

หลังจบเดย์แคมป์ของโซอี้ สัปดาห์ถัดมาก็เปิดเทอมใหม่พอดี ยังไม่ทันได้พักเลยลูกเอ๊ย แต่เจ้าตัวชอบมากเพราะจะได้ไปเลี้ยงวันเกิดกับเพื่อนๆที่โรงเรียน มัมมี้ก็โดดงาน อิอิ เพราะอยากได้เ้ค้กสดใหม่มาให้เด็กๆได้หม่ำกันไง

โรงเรียนเปิดเทอมใหม่มาไม่ถึงสามอาทิตย์ สองสาวของมัมมี้ก็เปื่อยกันทั้งคู่ โซอี้ไวรัสลงกระเพาะ ณิฌ่าเป็นไข้สูง เฮ้อ..ลอยกระทงปีนี้เลยกร่อยอีกแล้วล่ะ ไม่ได้ฤกษ์ซะทีนะบ้านเรา แด้ดดี้อุตส่าห์หอบกระทงขนมปังสามสีกลับมาที่บ้านให้เด็กๆได้ตกแต่งกระทงกันแทน

หลังเทศกาลลอยกระทงผ่านไปไม่กี่วัน ก็เป็นวันเกิดณิฌ่า ตอนแรกมัมมี้ว่าจะหอบเค้กไปให้ฉลองกับเพื่อนๆที่โรงเรียน แต่ก็เปลี่ยนใจในที่สุด เราไปฉลองด้วยกันดีกว่า ให้ณิฌ่าเลือกเมนูเอง ซึ่งก็จบลงด้วยไอศครีม ฮี่ๆ เด็กๆแชร์กัน 1 ชาม มัมมี้กับแด้ดดี้แชร์กันอีก 1 ชาม หุหุ ที่เยี่ยมมากๆคือตามถนนหนทาง ห้างร้านต่างๆเริ่มตกแต่งสถานที่เพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสกันบ้างแล้ว เราเลยไปเดินเล่นเก็บบรรยากาศกันมาด้วย

สองสัปดาห์หลังจากนั้น โรงเรียนก็จัดกิจกรรมเกี่ยวกับวันพ่อ โดยที่เชิญบรรดาคุณพ่อไฟแรงจัดกิจกรรมไปสอนเด็กๆในห้องเรียน แด้ดดี้ของเรา็ก็ไม่น้อยหน้า (รึเปล่า? คิคิ) เตรียมนิทานภาษาอังกฤษไปเล่าให้เด็กๆฟังด้วย โดยมีมัมมี้เป็นคนช่วยแปลให้ ห้องโซอี้โตแล้ว ฟังกันอย่างใจจดใจจ่อ ประมาณว่าตื่นเต้นตามเรื่อง ส่วนห้องณิฌ่าโดนเมซี่ป่วน คงฟังกันไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ ง่วงนอนด้วยมั้ง เอ้ยๆ เหนื่อย ก็เรียนพละเพิ่งเสร็จ 555

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่เราจะไปทำกิจกรรมที่โรงเรียน เราก็แวะไปที่พุทธมณฑลกัน อากาศวันนั้นดีมากๆ ลมเย็นสบาย จอดรถแล้วลงไปเดินย่ำหญ้าใกล้ต้นไม้ใหญ่และหนองน้ำสวยๆ ชอบจังเลยง่า ได้เก็บใบไม้แห้งไปให้โซอี้ใช้ทำงานในห้องอีกด้วย

แล้วกิจกรรมวันพ่อก็มาถึง โดยโรงเรียนแบ่งออกเป็นสองช่วง เด็กเล็กช่วงเช้า (ณิฌ่า) เด็กโตช่วงสาย (โซอี้) แล้วก็โรงเรียนเลิกครึ่งวัน อิอิ จำได้แม่นเลยว่าคนจะเยอะมากๆที่โรงเรียนทุกปี เพราะวันแม่ ส่วนมากแม่จะฉายเดี่ยว แต่วันพ่อ ส่วนมากจะมาเป็นแพ็คคู่ (หรือที่แย่กว่านั้น แท็กทีมกันมากกว่าสองคน แง้ๆ คือมีเจ้าตัวเล็กพ่วงท้ายมาด้วยไง) 

ช่วงเช้าของเด็กเล็ก ไม่มีอะไรมาก แต่ตัวแทนพ่อพูดได้ซึ้งจังเลยตอนปิดท้าย “พ่อเห็นรูปแล้วลูกๆก็บอกว่ารักพ่อๆๆ พ่อก็อยากบอกลูกๆเหมือนกันว่าพ่อก็รักลูกมาก” เด็กๆท่องกลอนสำหรับพ่อทุกคนได้พร้อมเพรียงน่ารักมากเลย แล้วเด็กๆก็ได้มอบการ์ดรูปหัวใจกับเสื้อยืดสีขาวที่แอบเพ้นท์เก็บไว้เพื่อวันนี้โดยเฉพาะด้วย

ช่วงสายของเด็กโต สาวๆห้องโซอี้มีรำอธิษฐานด้วย ของพี่ประถมรู้สึกจะเป็นฟ้อนเทียน แล้วก็อ่านกลอนเพราะๆให้พ่อฟัง รวมทั้งมอบเสื้อยืดที่ทั้งวาด ทั้งเพนท์เตรียมไว้สำหรับวันนี้เช่นเดียวกัน

หลังจากวันนั้น โรงเรียนก็หยุดยาว 5-10 ธค แด้ดดี้ก็ไม่มีคล้าสสอน เสมือนได้หยุดเหมือนกับลูกๆ เราเลยมีโปรเจคท์ยาว คือการจัดบ้านและย้ายห้องเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับฉลองคริสต์มาส และด้วยความเมตตาของพระเจ้าหรือความโชคดีของเรา หรือจะอะไรก็แล้วแต่..

ต้นคริสต์มาสต้นเก่ามันเก่าสมชื่อ อายุก็เท่าๆกับโซอี้ ราคาก็แสนแพง ตอนนั้นจำได้ว่าซื้อมาด้วยราคา 4500 บาทในขนาด 6 ฟุต แต่ด้วยความเก่าและแก่ เราเลยตัดสินใจทิ้งไป รอซื้อต้นใหม่สำหรับปีนี้ แต่ก็อีกนั่นแหละ ด้วยความซวยบัดซบของเรา หรือพระเจ้าทรงกลั่นกล้ง หรือจะอะไรก็แล้วแต่..

ของตกแต่งต้นคริสต์มาสที่ฝากไว้กับป๊อกกี้และยาย่า ป่านนี้อยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แง้ๆ น่ารักและราคาค่อนข้างแพงทั้งนั้น

สรุปได้ว่า ปีนี้ใหม่ทั้งเซ็ทจ้า ฮี่ๆๆๆ

เ้ช้าวันหนึ่ง เราไปหม่ำกันที่ฟู้ดแลนด์ แด้ดดี้ก็เกิดจะตาดีขึ้นมา เห็นต้นคริสต์มาสตั้งขายอยู่ ย่องไปดูใกล้ๆ กรี๊ดดดดดด 7 ฟุต 982 บาท เอาสิคะคุณ เดือดร้อนถึงผู้จัดการสาขาที่แสนน่ารัก วิ่งวุ่นหาโน่นนี่มาเสนอ แถมยังใจดีหยิบตุ๊กตาเล็กๆมาใส่มือเมซี่ซะด้วย แล้วเราก็ค่อยๆทยอยซื้อของตกแต่งฯเรื่อยๆจนเราคิดว่าสมควรแก่การหยุดซื้อได้แล้ว (เพราะตังค์หดหมดแล้ว ><)

และแล้ว..ก็ถึงวันสำคัญที่เด็กๆจะได้ช่วยกันละเลง เอ้ย ตกแต่งต้นคริสต์มาสต้นใหม่ของเรา หุหุ ซึ่งก็มีน้ำตาจนได้สิน่า สาวก OX (Over-Excited)!!

วาระล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป สดๆร้อนๆ เมื่อคืนนี้ พิธีเปิดนิทรรศการ Bangkok 226 ที่ BACC ผลงานของเด็กๆที่โรงเรียนได้ไปจัดแสดงในครั้งนี้ร่วมกับนายดี ช่างหม้อ ซึ่งโซอี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ในส่วนที่เราไปเดินดูกัน(ไม่ทันได้ครบหรอก)ดูจะเป็น Modern Art ซึ่งมัมมี้เองชอบจัง แต่ก็อยากแวะไปดูงานสมัยก่อนๆบ้างเหมือนกัน ต้องหาเวลาไปดูอีกเนอะ อยากบอกว่างานนี้มัมมี้ชอบมากกว่าตอน The Trace of Siamese Smile มากๆเลย ทั้งบรรยากาศ เลย์เอ้าท์ ฯลฯ

พูดแล้วก็นึกถึง Museum of Siam ที่ไปมาแล้ว แต่ด้วยความเซ่อซ่าของมัมมี้ เอากล้องไปด้วย แต่ลืมแบตเตอรี่ เฟอะฟะจริงๆเลย

 

เอาไว้แค่นี้ก่อนแล้วกันเนอะ ยาวมากๆแล้ว
หวังว่าบล้อกหน้าจะเป็นส่วนที่เหลือของปีนี้นะจ๊ะ

😀

– Introduction –

ก่อนจะเริ่มเขียนบล้อกนี้ มัมมี้ก็ชั่งใจอยู่นานว่าจะกลับไปเขียนที่บล้อกเดิมดีมั้ย หลังจากคุยกับแด้ดดี้แล้วก็มาสรุปลงตัวที่นี่ เพราะสามารถมี domain name ของเด็กๆเองด้วย ดีเนอะ!

ตัวละครหลักในบล้อกนี้ มีอยู่ 3 คน

 

  • โซอี้ เด็กหญิงอายุ 6 ขวบหมาดๆ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 และปีหน้าก็จะเข้าร่วมกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรมในชั้นประถม 1 ด้วย เป็นพี่สาวคนโตของครอบครัว แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวบางอย่าง บางครั้งเธอก็กลายเป็นน้องคนเล็กซะอย่างงั้น..
  • ณิฌ่า เด็กหญิงกำลังอายุจะ 4 ขวบในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว เรียนอยู่ัชั้นอนุบาล 1 เป็นสาวคนกลางของครอบครัว หลายครั้งที่ณิฌ่าเข้มแข็งและมั่นใจในทุกสิ่งที่เธอทำ แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เธอนิ่งเงียบในบางครั้ง
  • เมซี่ เด็กหญิงอายุ 2 ขวบปลายปีนี้ ยังไม่ได้ไปโรงเรียนกับพี่ๆเลย แต่ก็พยายามทำตัวเป็นนักเรียนเหลือเกิน เป็นน้องเล็กสุดแสบซ่าของครอบครัว นิสัยหลักๆก็ไม่ต่างจากน้องสุดท้องของบ้านอื่นๆหรอก

 

+ Three Sisters +

+ Three Sisters +

 

สามสาวทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง และจะสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหน ติดตามได้จาก Post ต่อๆไป